5 ย่านฮิตโตเกียว ปี 2022 ห้ามพลาด!

By KKTOURJAPAN – Dec 14, 2021 

กรุงโตเกียว (Tokyo / 東京) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดหมายของหลายๆ คนอยากจะมาสัมผัสสักครั้ง เพราะเป็นเมืองที่มีความทันสมัย แต่ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่อันสวยงาม อีกทั้งการเดินทางยังสะดวกสบาย ในเมืองหลวงแห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ซึ่งกระจายอยู่ในย่านต่างๆ อีกหลายแห่ง พอได้ยินชื่อบางคนอาจร้องอ๋อ แต่ใครที่ยังวางแผนการเที่ยวอยู่ วันนี้ #KKTOURJAPAN ขอพาทุกท่านมาชมแหล่งท่องเที่ยว 5 ย่านยอดฮิตในเมืองโตเกียว รับรองว่า น่าสนใจทุกแห่ง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวแน่นอน

คิชิโจจิ (Kichijoji / 吉祥寺 )   

คิชิโจจิ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสถานีชินจุกุ นับเป็นหนึ่งในย่านที่เจ๋งที่สุดที่ควรไปเยี่ยมชมเมื่อมาถึงโตเกียว แม้ว่าคิชิโจจิจะมีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองที่มีชาวโตเกียวต้องการอาศัยอยู่มากที่สุดในโตเกียว แต่ว่าคิชิโจจิกลับยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาตินัก

เราจึงเลือกสถานที่ท่องเที่ยวดีที่สุดที่ควรไปในย่าน คิชิโจจิ ที่สายฮิปสเตอร์ไม่ควรพลาด! โดยนั่งรถไฟจากสถานีชินจุกุโดยสายชูโอ (JR Chuo / 中央本線) เรามาเริ่มแวะย่านที่เจ๋งที่สุดในโตเกียวกันเลยดีกว่า

พิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum / 三鷹の森ジブリ美術館)

Photo: https://jw-webmagazine.com/best-things-to-do-in-kichijoji/

พิพิธภัณฑ์ธีมสตูดิโอจิบลิเพียงแห่งเดียวในโลก ตั้งอยู่ริมสวนอิโนะคาชิระ พิพิธภัณฑ์เปิดให้ได้ชมภาพวาดของภาพยนตร์จากค่ายการ์ตูนคุณภาพอย่าง Studio Ghibli อีกทั้งยังมีนิทรรศการ ภาพยนตร์สั้นสุดพิเศษ ร้านหนังสือ และของที่ระลึก นอกจากนั้นคุณจะได้พบกับตัวละครอย่างทหารหุ่นยนต์ จากเรื่อง Castle in the Sky และ Cat Bus จากเรื่อง My Neighbor Totoro

โดยการจะเข้ามาที่นี่นั้นจำเป็นต้องจองตั๋วเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์จิบลิ สำหรับแฟนๆ ค่ายนี้และคนที่สนใจอยากมาสัมผัสกับโลกแห่งจินตนาการแห่งนี้ ควรจองตั๋วก่อนเดินทางมาที่ญี่ปุ่น และศึกษาข้อมูลโดยละเอียดรวมถึงวิธีการซื้อตั๋วกับวิธีการเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์จิบลิด้วย

พิกัด:  https://goo.gl/maps/6VeaQmKfjiVEPVMMA

หมู่บ้านคิชิโจจิ เปอตีต์ (Kichijoji Petit Village / 吉祥寺プティット村)

Photo: https://jw-webmagazine.com/best-things-to-do-in-kichijoji/

เมื่อไปตามถนนช้อปปิ้งลึกลับอย่าง นากามิจิ โดริ (Nakamichi Dori / 中道通り) ไปซักพักจะมองเห็นเห็นอาคารที่เหมือนอยู่ในเทพนิยายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั้นก็คือ Kichijoji Petit Mura หรือ หมู่บ้านคิชิโจจิ เปอตีต์ คาเฟ่แมวธีมนวนิยายสุดคลาสสิกใจกลางโตเกียว ด้วยบรรยากาศอันเขียวชอุ่ม สถานที่พักผ่อนสุดชิคของคนกรุง พร้อมแผนที่สุดกวน อีกทั้งร้านค้าทั้งเครื่องประดับ จิวเวลรี่ และสินค้าหลากหลายสุดน่ารัก ชวนให้สัมผัสกับความแฟนตาซีที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ

พิกัด: https://goo.gl/maps/hsDgj5U4QHVjh6iZ6

โชฟุ ( Chofu / 調布市)

โชฟุ ชานเมืองโตเกียวสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของใจกลางเมือง และเพลิดเพลินไปกับความสนุกสนานที่เหมาะสำหรับครอบครัว โชฟุตั้งอยู่ทางตะวันตกของสถานีชินจูกุ เมืองโชฟุเต็มไปด้วยสถานที่สวยงาม ทั้งวัด สวนสาธารณะ และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจอื่นๆ มากมาย ทำให้โชฟุเป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดสมกับการพักผ่อนที่แท้จริง

เราได้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวดีที่สุดที่ควรไปในย่าน โชฟุ ที่สายธรรมชาติเน้นเก็บบรรยากาศต้องไปให้ได้ โดยนั่งรถไฟจากสถานีชินจุกุโดยสายเคโอ นิว ไลน์ (Keio New Line / 京王新線) ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย

สวนพฤกษศาสตร์จินได (Jindai Botanical Garden / 神代植物公園)

Photo: https://tokyocheapo.com/events/jindai-botanical-gardens-chrysanthemum-show/

สวนพฤกษศาสตร์จินไดอันกว้างขวาง ตั้งอยู่ข้างๆ วัดจินไดจิ สวนกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว รวมถึงการจัดแสดงพืชนานาพันธุ์ตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ดอกกุหลาบกว่า 5,000 ต้นจะบานสะพรั่งต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่าน จนเป็นที่ที่ผู้คนจากทั่วโลกมารวมตัวกัน

นอกจากนี้ ยังสามารถชมดอกบ๊วย ดอกซากุระ และดอกฟูจิได้ในฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม รวมถึงชมดอกสึสึจิ ดอกโบตั๋น และดอกแปะเจียกได้ในฤดูร้อนระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อีกทั้งที่เรือนกระจกข้างสวนกุหลาบ สามารถชมพืชเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนจากต่างประเทศได้ตลอดทั้งปีด้วย นับเป็นสถานที่ที่มาได้ทุกฤดูกาลไม่มีเบื่อ สำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ และกำลังมองหาวิวถ่ายภาพสวยๆ อยู่ถือว่าเป็นสถานที่ที่สวยงามอีกที่หนึ่ง

พิกัด: https://goo.gl/maps/Dv24DNcnPcq81iR79

วัดจินไดจิ (Jindaiji Temple / 深大寺)

Photo: https://www.jindaiji.or.jp/en/

วัดจินไดจิ ก่อสร้างขึ้นในปี 733 ในบริเวณวัดที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างงดงามและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ต้นไม้ต้นหญ้าอันเขียวขจี ร่องน้ำที่มีปลาเวียนว่าย ต่างแต่งแต้มสีสันให้กับวัดมาเป็นเวลามากกว่าพันปี ผู้คนมัจะมาไหว้พระที่นี่เพื่อขอพรให้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และขอพรเรื่องความรัก

พระพุทธรูปพระโคตมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระพุทธรูปของวัดในโตเกียวเพียงหนึ่งเดียวที่ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเนื่องจากอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนผ่านไปมาน้อยเมื่อเทียบกับชื่อเสียงของวัด จึงไม่ได้มีผู้คนมากเหมือนกับวัดเซนโซจิของอาซากุสะ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ เสน่ห์อีกอย่างของวัดจินไดจิก็คือพื้นที่บริเวณรอบๆ ของวัดที่ให้บรรยากาศย้อนกลับไปช่วงยุคสมัยเอโดะ และร้านโซบะที่คัดสรรมาอย่างดีกว่า 20 สาขา ณ ถนนเล็กๆ แห่งนี้ ให้รับประทานระหว่างการพักผ่อน อีกทั้งสามารถซื้อของฝากสำหรับนำกลับภายในร้านค้าได้ด้วย เช่น ขนมญี่ปุ่นที่ใช้เส้นโซบะ และขนมปังโซบะจำหน่าย

ปิดท้ายด้วยเครื่องปั้นดินเผาที่สามารถออกแบบเองได้ตามฉบับดั้งเดิมของ มุซาชิจินไดจิคามะ ที่ใช้เวลาเผาเพียงไม่นานก็ได้ของฝากสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เราสามารถเดินเล่นชมความงดงามของวัดจินไดจิ ซึมซับช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ในระหว่างที่รอเครื่องปั้นกำลังเผาจนเสร็จสมบูรณ์

พิกัด: https://goo.gl/maps/j4UphpsoRTB1xBPH8

ไดคังยามะ (Daikanyama / 代官山)

ไดคังยามะนั้นถูกโอบล้อมด้วยชิบุยะ นากาเมกุโระ และเอบิสุ สถานที่ซึ่งอัดแน่นไปด้วยแหล่งแฟชั่นบูติกหรูหรา นอกจากนั้นยังมีภัตตาคารและคาเฟ่ที่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารมื้อเช้าควบต่อด้วยมื้อเที่ยงอีกด้วย บรรยากาศของถนนอันร่มรื่น ตัดกับแฟชั่นผู้คนที่สวยสะดุดตา สัมผัสอารมณ์แบบฉบับเซเล็บ และพักผ่อนด้วยการรับประทานอาหารสุดหรูตามคาเฟ่ชื่อดัง

เราได้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวดีที่สุดที่ควรไปในย่าน ไดคังยามะ ที่สายกินต้องมาตะลุย โดยนั่งรถไฟโตคิว โทโยโกะ ไลน์ (Tokyu Toyoko Line / 東急東横線) หรือจะออกกำลังกายโดยเดินเท้าจากชิบุยะเพียง 15 นาที และจากเอบิสุเพียง 10 นาทีเท่านั้น

ฮิลล์ไซด์ แพนทรี ไดคังยามะ (Hillside Pantry Daikanyama /ヒルサイドパントリー代官山)

Photo: https://bakejob.tomiz.com/new/953

ร้านเบเกอรี่ขนมปังโฮมเมด ตั้งอยู่บนชั้น B1 ของ Daikanyama Hillside Terrace ขนมปังของร้านทั้งหมดทำด้วยฝีมือของผู้ชำนาญการทำขนมปัง โดยไม่มีการปรุงแต่งใดๆ จุดเด่นของร้านคือ ครัวซองต์ยีสต์ธรรมชาติ กรอบด้านนอกเป็นขุยและด้านในหนุบหนับ ซึ่งสินค้าขายดีตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน!

นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีร้านขายอาหารพร้อมทานอย่างแซนด์วิชยอดนิยมที่ทำจากขนมปังของร้าน อีกทั้งร้านยังจำหน่ายไวน์และวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้พบกับเห็ดพอชินีสดและเห็ดทรัฟเฟิลขาวชั้นดี และทางร้านยังมีพื้นที่ร้านกาแฟให้ดื่มด่ำระหว่างพักเหนื่อยจากการเดินทางอีกด้วย

พิกัด: https://goo.gl/maps/4z3Dqj21jKrDSULx5

โรงเบียร์สปริง วัลเลย์ (Spring Valley Brewery / スプリングバレーブルワリー)

Photo: https://www.archdaily.com/788699/spring-valley-brewery-tokyo-general-design/574f91dee58eceff09000002-spring-valley-brewery-tokyo-general-design-photo

โรงเบียร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในโกดังเก่าสูงใหญ่ ออกแบบสไตล์ Loft ด้วยวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็ก ไม้ ตลอดจนอุปกรณ์เปิดโล่งและท่อลมบนเพดาน ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นในเมืองหลวงนัก แต่ได้รับความนิยมจากทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว และไม่ใช่แค่เบียร์ธรรมดาๆ แต่ โรงเบียร์สปริง วัลเลย์ มีเบียร์หลากหลายประเภท ด้วยการกลั่นโดยอุปกรณ์การต้มเบียร์ซึ่งมองเห็นได้หลังแผงกระจกขนาดมหึมา เป็นการการผสมผสานระหว่างร้านอาหารและโรงเบียร์ ทำให้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับคราฟต์เบียร์ที่กลั่นสดใหม่ได้ทันที จับคู่กับอาหารเลิศรสที่คัดสรรมาอย่างดี

แนวคิดของร้านคือ การสื่อสารระหว่างโรงเบียร์กับผู้คน โดยแสดงขั้นตอนการผลิตเบียร์ให้กับลูกค้า ผสมผสานกับพื้นที่นั่งในร้านอาหาร และพื้นที่อุปกรณ์การต้มเบียร์ ทั้งโต๊ะส่วนกลางขนาดใหญ่ เคาน์เตอร์ และที่นั่งริมระเบียงกลางแจ้ง จะช่วยสร้างประสบการณ์ในการดื่มเบียร์ที่หลากหลาย และไม่ซ้ำใคร

พิกัด: https://g.page/spring-valley-brewery-tokyo?share

โอโมเตะซันโด (Omotesando / 表参道)

โอโมเตะซันโด เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในเขตชิบุยะ และตั้งอยู่ติดกับฮาราจูกุ แต่บรรยากาศกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งร้านเสื้อผ้า คาเฟ่ และร้านขายสินค้าหลากหลายจำนวนมากตั้งเรียงรายสองข้างทาง ซึ่งช่วงราคาของร้านค้าในโอโมเตะซันโดค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับชิบุยะ ร้านเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและร้านค้าแบรนด์หรูชั้นนำมารวมตัวกันที่นี่ สร้างบรรยากาศหรูหราที่ทำให้คุณรู้สึกถึงการเป็นไฮโซที่กำลังเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งในช่วงสุดสัปดาห์

เราได้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวดีที่สุดที่ควรไปในย่าน โอโมเตะซันโด ที่สายแฟชั่นควรมาเยือน โดยเดินเท้าจากชิบุยะเพียง 10 นาทีเท่านั้น

โอโมเตะซันโด ฮิลล์ (Omotesando Hills / 表参道ヒルズ)

Photo: https://www.omotesandohills.com/information/about/

แหล่งช้อปปิ้งสุดหรู ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมระดับโลกในย่านที่ทันสมัยที่สุด ข้างในเราจะได้ค้นพบแบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากต่างประเทศ เช่น Valentino และ Jimmy Choo ร่วมกับดีไซเนอร์ท้องถิ่นอย่าง Yohji Yamamoto และ Jun Hashimoto ร้านอาหารและคาเฟ่ที่คัดสรรอย่างดีตั้งแต่ซูชิไปจนถึงเบอร์เกอร์ และร้านค้าอื่นๆ ต่างกระจัดกระจายไปทั่วโอโมเตะซันโด ฮิลล์ สุดตระการตา

และตรอกซอกซอยที่ซ่อนอยู่ถนนด้านหลัง เมื่อช้อปปิ้งที่นี่แล้ว อยากให้ลองเดินเล่นไปตามถนนเล็กๆ โดยรอบ เราจะได้พบกับร้านกาแฟ แกลเลอรี่ และร้านบูติกสุดหรู ที่อาจจะเป็นไอเท็มในดวงใจของคุณไม่แพ้แบรนด์ไฮเอนด์

พิกัด: https://goo.gl/maps/EUMtnYReiBDfnfd47

คิดดี้แลนด์ (Kiddyland / キデイランド)

Photo: https://www.facebook.com/goronekosummit/

Kiddyland เมืองของเล่นปลอดภาษีและสินค้าคาแรคเตอร์ดังในโอโมเตะซันโดะ ตั้งแต่ Hello Kitty ไปจนถึง Star Wars นับเป็นสวรรค์ของผู้บริโภคทั้งเด็กและผู้ใหญ่

อาคารสี่ชั้นที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างตึกสองข้างนั้น ภายในเต็มไปด้วยของเล่นและสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Studio Ghibli, Hello Kitty, Gudetama หรือ Rilakkuma ร้านนี้เต็มไปด้วยตัวละครญี่ปุ่นดังๆ และสินค้าในธีมการ์ตูนที่จะพาให้เราย้อนกลับไปเป็นด็กอีกครั้ง

ไม่ใช่แค่สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นเท่านั้น ร้านนี้ยังสินค้ามากมายจากแบรนด์อเมริกันที่เราคุ้นเคย เช่น สตาร์ วอร์ส ดิสนีย์ และมาร์เวล มีตั้งแต่ถุงเท้า ผ้าคลุมพวงมาลัย ไปจนถึงร่ม ปัญหาเดียวของการมาที่นี่คือเงินที่เตรียมมาอาจจะไม่พอสำหรับความน่ารักเหล่านี้ที่เมื่อได้เห็นแล้วต้องอยากครอบครองไอเท็มมากกว่า 1 ชิ้น แน่นอน

พิกัด: https://g.page/h_kiddyland?share

ชิโมะคิตาซาวะ (Shimokitazawa / 下北沢)

การค้าขายบนทางม้าลายที่พลุกพล่านของชินจูกุ และวัยรุ่นที่มีสีสันของฮาราจูกุ ผสมผสานกันอย่างลงตัวจนเกิดเป็นชีวิตของชาวฮิปสเตอร์อย่างชิโมะคิตะซาวะ เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนซึ่งหลีกเลี่ยงห้างใหญ่โต หันมาสู่ร้านค้าขนาดเล็ก มีความเป็นอิสระ และได้กลิ่นอายของความวินเทจ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของร้านเหล้าองุ่น คาเฟ่มีสไตล์ โรงละครขนาดเล็ก และของว่างที่ไม่เหมือนใคร และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยบรรยากาศสไตล์บรู๊คลิน แบะศิลปะบนท้องถนนที่พบเห็นได้ตลอดทาง ชิโมะคิตะซาวะจึงนับว่าเป็นมิติใหม่ของฮิปสเตอร์ญี่ปุ่น

เราได้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวดีที่สุดที่ควรไปในย่าน ชิโมะคิตะซาวะ ที่สายชิลสไตล์วินเทจควรมาให้ได้ โดยนั่งรถไฟโอดะกีว สายโอดาวาระ (Odakyu Odawara Line / 小田急小田原線) มาลงที่สถานีชิโมะคิตาซาวะ

แอนทีค ไลฟ์ จิน (Antique Life Jin / アンティークライフ・ジン)

Photo: https://discovery.cathaypacific.com/4-of-tokyos-coolest-secret-neighbourhoods/

แค่เดินเพียง 3 นาทีจากสถานีชิโมะคิตาซาวะ ก็สามารถเดินทางไปร้านขายของเก่าแห่งนี้ได้ ร้านที่มีมาช้านานนี้เปิดในปี 1982 และไม่เพียงแค่จำหน่ายของเก่า แต่ยังมีเฟอร์นิเจอร์ดั้งเดิมอีกด้วย เฟอร์นิเจอร์ของร้านมีทั้งโต๊ะเตี้ยชาบูได กล่องสะสม และโคมไฟ เรายังสามารถหานาฬิกา เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และของกระจุกกระจิกธีมแมวที่หลากหลายได้ที่นี่ หากกำลังมองหาเครื่องประดับโบราณสไตล์ฝรั่งเศส แอนทีค ไลฟ์ จิน มีสินค้าให้เลือกมากมาย โดยเจ้าของร้านได้นำเข้าสินค้ามาจากยุโรปโดยตรง นักสะสมตัวยงไม่ควรพลาดทุกประการ

พิกัด: https://goo.gl/maps/tfhK5L4dqFPJYGYE8

ชิโรฮิเกะ พัฟครีม แฟคทอรี่ (Shirohige Cream Puff Factory / 白髭のシュークリーム工房)

Photo: https://imatama.jp/contents/mini_special/shirohige/

หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Ghibli หนึ่งในสถานที่ที่คุณควรไปคือ ชิโรฮิเกะ พัฟครีม แฟคทอรี่  ร้านกาแฟและร้านค้าสไตล์โบฮีเมียนและย้อนยุคในชิโมะคิตะซาวะ บ้านสองชั้นที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้บรรยากาศอบอุ่น จึงเป็นจุดที่เหมาะที่สุดสำหรับช่วงพักทานของหวานในฤดูใบไม้ผลิ

ภายในร้านมีขนมและของว่างน่ารักมากมาย แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของร้านคือ Totoro Cream Puffs ตัวน้อยน่ารักจากการ์ตูนเรื่อง My Neighbour Totoro และมีบริการอาหารโฮมเมด เช่น พาสต้าสด สลัด ของหวาน และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่บอกได้คำเดียวว่า น่าทานทุกเมนู

คาเฟ่นี้เป็นที่นิยมมากในหมู่คนในท้องถิ่นและแฟน ๆ ของ Totoro ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าให้ทำการจองล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวางแผนที่จะไปในช่วงสุดสัปดาห์ มิฉะนั้น อาจจะต้องจดชื่อของคุณลงและไปเดินเล่นตามถนนที่สวยงามของย่านนี้ก่อน ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน

พิกัด: https://goo.gl/maps/gsKkjPvQujUKxybb9